“บอย พัทยา” ลุยทนายดังกล่าวหาว่าเป็นมาเฟีย พร้อมโชว์หลักฐานเอาผิดฝ่ายตรงข้าม ครอบครองที่ดินบนเกาะล้านทั้งที่ไม่มีสิทธิ์ ยันพร้อมยืนเคียงข้างชาวเกาะล้าน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ สภ.เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายวีระ นาทรัพย์ หรือ ”บอย พัทยา” พร้อมกับทนายประทีป นวลเศรษฐ ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.พัทยา กรณีที่มีกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นทนายความฝ่ายตรงข้ามได้มีการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน พร้อมทั้งกล่าวหานายวีระ นาทรัพย์ เป็นมาเฟียบุกรุกที่บนเกาะล้าน ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ทำให้เกิดการเกลียดชัง

สืบเนื่องจากวันที่ 1 เมษายน 2567 ได้มีทนายความพร้อมทั้งกลุ่มบุคคลมีการแถลงข่าว ใส่ร้ายป้ายสี ทำให้เกิดความเกลียดชังนายวีระ พร้อมทั้งกล่าวหาบุกรุกที่ดินบนเกาะล้าน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทั้งที่ในความเป็นจริงการซื้อที่ดินประมาณ 1 ไร่เศษ มีหลักฐานถูกต้อง แต่มีกลุ่มบุคคลได้ร่วมกัน พร้อมทั้งกล่าวหาว่าเป็นมาเฟียคุมเกาะล้าน และมีการโยงชื่อนายตำรวจระดับนายพล อักษรย่อ ต. เพื่อให้ได้รับความเสียหาย ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด โดยกล่าวหาว่านายวีระ อ้างชื่อนายพล ต.ไปข่มขู่ชาวบ้านบนเกาะล้าน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียง ทั้งที่ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด นายวีระจึงแจ้งความดำเนินคดีกับทนายความพร้อมกับพวกที่ร่วมกันแถลงข่าวให้ร้ายป้ายสีในครั้งนี้ เพื่อให้ศาลพิสูจน์ความจริงที่เกิดขึ้น

นายวีระ นาทรัพย์ หรือ ”บอย พัทยา”กล่าวว่า การเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.พัทยาในครั้งนี้ เนื่องมาจากมีกลุ่มคนมาแถลงข่าวทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมทั้งกล่าวหาว่า ตนเองบุกรุกที่ดินบนเกาะล้าน ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ ในที่ดินที่มีข้อพิพาท ทั้งที่ตนเองซื้อที่ดินมาโดยถูกต้องจากเจ้าของที่ดินเดิม ที่ขายต่อกันมา และมีการทำสัญญาซื้อขายกันอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าว จนกระทั่งมีความชัดเจนว่าที่ดินที่เกิดกรณีพิพาทนั้น ตนได้เข้าครอบครองโดยถูกต้อง

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าเจ้าของที่ดินเดิมเสียชีวิต ปรากฏว่าได้มีทายาทได้ร้องขอต่อศาล ขอเป็นผู้จัดการมรดกในที่ดินแปลงดังกล่าว ทั้งที่ยังอาจไม่รู้ข้อเท็จจริง จึงได้มีการอ้างคำสั่งศาล เอามาเป็นหลักฐาน ในการขายที่ดินให้กับบุคคลอื่น ทั้งที่เจ้าของที่ดินเดิมได้ขายไปแล้ว และยังมีการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกระบวนการขอออกเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดิน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยืนยันที่ดินที่มีข้อพิพาทนั้นไม่มีปัญหา และตนเองครอบครองมานานหลายปี ต่อมาปรากฏว่าผู้จัดการมรดกได้นำที่ดินไปขายต่อกับบุคคลอื่น และผู้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว เชื่อว่าตนเองมีสิทธิในที่ดินนั้น ได้มอบหมายให้ตัวแทนมาร้องทุกข์กล่าวโทษ จึงเกิดปัญหาการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกันขึ้น

สำหรับหลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ขณะนี้มีเอกสารอยู่ในมือของตนเองหมดแล้ว การที่มีกลุ่มคนได้มีการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน พร้อมทั้งกล่าวอ้างว่าตนเองไปข่มขู่ และอ้างว่าตนเองนำชื่อของนายพล ต. ซึ่งเป็นนายตำรวจใหญ่ เพื่อไปฮุบที่ดินที่มีข้อพิพาทกัน และยังอ้างว่าเป็นมาเฟีย ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าว บ่งบอกถึงนัยยะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ดินบนเกาะล้าน ที่มีข้อพิพาทกัน ไปเชื่อมโยงกับนายพล ต. ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ซึ่งในความเป็นจริงศาลจะเป็นผู้พิพากษาเองว่า ที่ดินที่มีข้อพิพาทในขณะนี้ ใครเป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกต้อง ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับนายพล ต.แต่อย่างใด

“ทำให้มองว่าการกล่าวอ้างของบุคคลกลุ่มนี้ แถลงข่าวเพื่อให้เกิดความเสียหายกับนายพล ต.ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน แต่ต้องการทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงนายพล ต.มากกว่า นอกจากนี้ทนายความซึ่งเป็นคู่กรณีกับผมนั้น ยังได้ประกาศไปถึงเมืองพัทยา และตำรวจ สภ.พัทยาว่า หากลูกความของตนไม่ได้รับความเป็นธรรม และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ไม่ไปยึดรถแม็คโครที่นำมาใช้ปรับพื้นที่ดิน ที่มีข้อพิพาทดังกล่าว รับรองได้ว่าจะรื้อปัญหาบนเกาะล้านให้ดู พร้อมทั้งอ้างให้ไปดูพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ให้ดี” นายวีระกล่าวและว่า การที่กล่าวเช่นนี้ มองดูแล้วลูกความของทนายฝ่ายตรงข้าม จะต้องได้รับความเป็นธรรมเพียงฝ่ายเดียวหรืออย่างไร โดยความเป็นธรรมนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้กับบุคคลอื่นหรือ ทั้งที่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของตนเองกับคู่กรณี ที่อ้างสิทธิมาครอบครองที่ดินนั้น แต่กำลังจะโยงปัญหาไปให้ชาวเกาะล้าน ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนอีกด้วย

นายวีระกล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้ตนเองไม่เห็นด้วย ทั้งที่ชาวเกาะล้านอยู่กันเป็นปกติสุขมานานหลายปี เกาะล้านเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนรู้จักกันดี มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศหลั่งไหลมาเที่ยวกันนับหมื่นคนในแต่ละวัน สร้างรายได้ให้กับคนบนเกาะล้าน รวมถึงสร้างการท่องเที่ยวให้กับ จ.ชลบุรี และสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยอีกด้วย หากคนบนเกาะล้านได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบจากการกล่าวหา และการกระทำของคนกลุ่มนี้ ตนเองพร้อมที่จะปกป้องชาวเกาะล้านทุกคน ถึงแม้ว่าจะต้องต่อสู้ จนผืนดินกลบหน้าก็ตาม ก็เพื่อต้องการให้ชาวเกาะล้านอยู่กันอย่างปกติสุข

 

ภาพ/ข่าว น.ส.นภชนก เหมือนนามอญ บก.ชลนิวส์ทีวีออนไลน์ สัมภาษณ์ บริบูรณ์ บก.”ข่าวทั่วไทย”รายงาน 087-614-2444.