สภาอุตสาหกรรมระยอง และภาคธุรกิจ ค้านขึ้นค่าแรง 400 บาท ของรัฐบาล เหตุต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หวั่นกระทบธุรกิจ SMEs
เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 ที่ห้องประชุมสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมยศ ทองบัณฑิต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดระยอง และภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย สมาคมโรงแรมจังหวัดระยอง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยอง สมาคมท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อสุขภาพ สมาคม SMEs ไทยจังหวัดระยอง สมาคมผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่มจังหวัดระยอง สมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ได้มีมติไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน ของรัฐบาลด้วยเหตุผลต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากจะมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ควรปรับตามกฎหมายบัญญัติกำหนดในมาตรการ 87 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 และมีความต้องการให้มีการปรับอัตราค่าจ้างตามทักษะฝีมือแรงงาน นอกจากนี้ก็ขอให้ภาครัฐเข้ามาดูแล ด้วยการลดค่าครองชีพของแรงงานด้วย เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำ เป็นต้น
นายสมยศ เปิดเผยต่อว่า ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน จะกระทบอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ขนาดกลางของจังหวัดระยอง โดยเฉพาะภาคประมง โรงแรม อุตสาหกรรมการเกษตรไปทั่ว แต่อย่างไรก็ตามค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ไม่ได้ตอบโจทย์แรงงานที่มีฝีมือแต่ละระดับของแรงงานคนไทย ซึ่งมันจะกระทบแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาในเรื่องงานสกิล เบื้องต้นจะมีการทำหนังสือไปที่ กรอ.จังหวัดระยอง ยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคีเรื่องการปรับค่าแรงขั้นต่ำต่อไป ทั้งนี้อยากให้มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามมติคณะกรรมการไตรภาคีที่กำหนดเอาไว้ ไม่อยากให้มีการขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลที่มีการรวบรัดตัดตอนแบบนี้
ด้านนายพิธพร สะมะลาภา ประธานหอการค้าจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า หอการค้าจังหวัดระยอง ก็ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน ตามนโยบายของรัฐบาล อยากให้ปรับขึ้นตามกฎหมายบัญญัติกำหนดไว้ในมาตรการ 87 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 ซึ่งมีความยุติธรรมกับผู้ประกอบการทุกคน คนที่มีฝีมือควรจะได้ค่าแรงสูง คนไม่มีฝีมือก็ควรจะพัฒนาขึ้นถึงจะถูกต้อง นอกจากนี้แรงงานฝีมือของจังหวัดระยอง ได้ค่าแรงเกิน 400 บาทอยู่แล้ว แต่ว่าแรงงานไร้ฝีมือผู้ประกอบ SMEs ก็ยังต้องใช้อยู่ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็ควรที่จะพัฒนาฝีมือมากขึ้น เพื่อให้ได้ค่าแรง 400 บาท ไม่ใช่ว่าแรงงานไม่มีฝีมือจะได้ค่าแรง 400 บาทเท่ากัน ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการ และแรงงานที่มีทักษะฝีมือมาก ซึ่งส่วนใหญ่แรงงานไม่มีฝีมือจะเป็นแรงงานต่างด้าว และกลุ่มแรงงานที่ไม่คิดจะพัฒนาฝีมือตัวเอง แต่เรียกร้องค่าแรงสูง
ด้านนายสงวน แสงวงศ์กิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ในภาพรวมไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม การค้า หรือการท่องเที่ยว ซึ่งตนได้รับฟังและประชุมประเด็นปัญหาค่าแรงขั้นต่ำ 300 กว่าบาทในหลายพื้นที่ไม่เท่ากันจะขึ้นเป็น 400 บาท โดยเฉพาะภาคตะวันออกมีความหลากหลายของอาชีพ ได้รับผลกระทบวงกว้าง ซึ่งตอนต้นปีมีการขึ้นค่าแรงมาแล้ว และจะมีการขึ้นค่าแรง 400 บาทปลายปี เดืนอ ต.ค.นี้ ซึ่งจากสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ที่กำลังฟื้นฟู หรือประคับครองผ่านวิกฤติต่างๆ ถ้าประกอบการยังไม่สามารถตั้งตัวได้เต็มที่ก็จะมาประสบปัจจัยต่างๆ ทางด้านต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องค่าไฟฟ้า น้ำมัน สาธารณูปโภค ซึ่งจะต้องมีการปรับค่าแรงขึ้นอีก ผู้ประกอบการรายใหญ่จะกระทบน้อย แต่เป็นห่วงกระทบภาคธุรกิจจนาดเล็ก SMEs ประมง เกษตร ท่องเที่ยว ซึ่งล้วนแล้วแต่ใช้แรงงานทักษะฝีมือน้อย ค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ตอบโจทย์แรงงานชีวิตจะดีขึ้น ซึ่งอาจจะไม่สอดคล้องกับค่าสาธารณูปโภค ค่าดำรงชีพที่สูงขึ้น จึงอยากจะฝากไว้ถ้าปรับค่าแรงขั้นต่ำ ต้องให้เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติกำหนดไว้ในมาตรการ 87 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งจะทำให้ประคับประครองสามารถผ่านวิกฤติเศรษฐกิจช่วงนี้ไปได้ต่อไป
เดชา สุวรรณสาร ภาพ-ข่าว